นักบุญอื่น ๆ ที่ถือศีรษะ ของ นักบุญถือศีรษะ

นักบุญอาโฟรดิสิอุสมรณสักขีแห่งอะเล็กซานเดรียที่สักการะกันที่เมืองเบซีเยร์

นักบุญคัธเบิร์ตแห่งลินดิสฟาร์นมักจะปรากฏเป็นนักบุญที่มีศีรษะอยู่บนไหล่ และประคองศีรษะที่สองในอ้อมแขน แม้ว่านักบุญคัธเบิร์ตจะไม่ได้เป็นนักบุญถือศีรษะ ศีรษะที่สองอันที่จริงแล้วเป็นของนักบุญออสวอลด์แห่งนอร์ทธัมเบรียผู้ที่ถูกฝังด้วยกันที่มหาวิหารเดอแรม

ตำนานนักบุญถือศีรษะเกี่ยวกับนักบุญนิเคสแห่งแร็งกล่าวว่าในชั่วเวลาที่ถูกสังหารนิเคสกำลังอ่าน เพลงสดุดี 119 เมื่ออ่านมาถึง "Adhaesit pavimento anima mea" (บทเพลงสดุดี 119:25 ) พระองค์ก็ถูกตัดหัว แต่เรื่องราวกล่าวต่อไปว่าหัวที่ถูกตัดตกลงบนพื้น และนิคาเซียสก็อ่านเพลงสดุดีต่อไปในวรรค "Vivifica me, Domine, secundum verbum tuum"[5] เนื้อหาของหัวที่ยังคงพูดได้เล่ากันมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 8 Passio ของนักบุญจัสตัสแห่งโบเว หลังจากที่จัสตัสผู้ที่ยังเป็นเด็กถูกตัดหัวโดยทหารโรมันแล้ว จัสตัสก็ยกหัวตนเองขึ้นมาและเทศนาต่อไป ต่อมาบิดาและน้องชายก็พบร่างของจัสตัสนั่งอยู่พร้อมด้วยศีรษะบนตัก จัสตัสมอบหัวให้บิดาและขอให้นำไปยังโอแซร์เพื่อให้เฟลิเชียผู้เป็นมารดาได้จูบ[6]

ตำนานของนักบุญอาโฟรดิซิอุสแห่งอเล็กซานเดรียได้รับการนำมาที่เมืองเบซิเยร์ในฝรั่งเศสเป็นอันดับนำของรายพระนามของพระสังฆราช ตามชีวประวัตินักบุญอาโฟรดิซิอุสเดินทางมากับอูฐ ขณะที่ทำการเทศนาอยู่ก็มีกลุ่มเพกันแทรกตัวออกมาจากกลุ่มคนที่ฟังเทศน์อยู่เข้ามาตัดหัวแอฟรอดิเซียสโดยไม่บอกไม่กล่าว แอฟรอดิเซียสยกหัวตนเองขึ้นมาและประคองเข้าไปในชาเปลที่เพิ่งได้ทำการสถาปนา ณ จุดนั้น ที่ยังคงตั้งอยู่และเรียกกันว่า "Place Saint-Aphrodise, Béziers"[7] นักบุญฮิเมริอุสแห่งบอสโทหรือนักบุญเจโมโรก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่กล่าวกันว่ายังคงมีชีวิตอยู่หลังที่ถูกตัดศีณษะไปแล้ว และถือศีรษะตนเองขึ้นหลังม้า ไปพบกับลุงผู้เป็นบิชอปบนภูเขาก่อนที่จะเสียชีวิต[8]

ตำนานที่เกี่ยวกับนักบุญชีเนแห่งลาฌารากล่าวว่าหลังจากที่ถูกตัดคอที่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสแล้ว ชิเนสก็ยกหัวตัวเองขึ้นมาและโยนลงไปในแม่น้ำโรน หัวก็ลอยออกทะเลไปยังเมอร์เซีย, สเปนที่ไปได้รับการสักการะเป็นมงคลวัตถุ (เมอร์เซียเป็นศูนย์กลางของลัทธิบูชานักบุญชีเน)[9]

ใน "ตำนานทอง" เมื่อเปาโลอัครทูตถูกลงโทษพระองค์ก็ทรง "ยืดหัวออกไปเพื่อจะให้ถูกตัด และเมื่อหัวหลุดออกจากร่างก็กล่าวว่า "เยซุส คริสตุส!" ที่หมายถึงพระเยซูคริสต์ถึงห้าสิบครั้ง" เมื่อพบหัวของพระองค์ที่จะนำกลับมารวมกับร่างแล้วเป็นเรลิกแล้ว ร่างของนักบุญเปาโลก็หันมารวมกับหัวที่วางไว้ที่ปลายเท้าเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นศีรษะของตนเองที่แท้จริง[10]

ตามตำนานเกี่ยวกับนักบุญสตรีนักบุญออสกิธยืนขึ้นหลังจากที่ถูกตัดหัว ยกหัวขึ้นมาเช่นเดียวกับนักบุญเดนิสแห่งปารีสและนักบุญถือศีรษะองค์อื่นๆ เดินต่อไปขณะที่ประคองศีรษะของตนเองไปยังประตูคอนแวนต์ก่อที่จะล้มตัวลงเสียชีวิต[11]

ใกล้เคียง

นักบุญไร้เทียมทาน หนทางรอดในต่างโลกของมนุษย์เงินเดือน นักบุญเศคาริยาห์ นักบุญอันดรูว์ นักบุญโยเซฟ นักบุญถือศีรษะ นักบุญซาวา นักบุญเดนิส นักบุญจอร์จ นักบุญสเทเฟน นักบุญวาเลนตินุส